lemmetook

​ใครชอบหนังแนวสืบสวนสอบสวน แอบมีสยองขวัญระทึกใจผสม และเนื้อเรื่องบีบหัวใจคนดูไปได้ไม่ขาดสายแล้วล่ะก็.. ห้ามพลาดเรื่องนี้เลยเด็ดขาด! . RE:MIND  | A NETFLIX ORIGINAL SERIE S  . ซีรีย์จากฝั่งประเทศญี่ปุ่นที่มีเนื้อเรื่องน่าค้นหา แปลก และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนออกมาผ่านการเล่าเรื่องราวของเด็ก 11 คนที่ถูกจับมานั่งรวมกันที่ห้องอาหาร โดยมีกุญแจล็อกขาไว้กับพื้นทำให้ไม่สามารถขยับหรือเดินไปไหนได้ พวกเธอจะทำยังไง ที่นี่คือที่ไหน และใครเป็นคนจับตัวมา พวกเธอจะรอดออกไปได้ไหม มีแต่สิ่งที่คาดเดาไม่ได้อยู่ในเรื่องนี้ ขอชื่นชมก่อนว่าซีรีย์เรื่องนี้ Sound ดีมากกกกกกกกกกก~ คือเป็นตัวกระตุ้นให้เราตื่นเต้นตามด้วยตลอด ไม่ว่าจะใช้เสียงของเสียดสีกัน เสียงลมหายใจถี่ๆ เสียงเปิดประตูช้าๆ หรือแม้กระทั่ง sound ของหนังสยองขวัญก็มาเอง  แล้วในเรื่องนี้มักจะถ่ายภาพที่มองไปตามความมืด หรือสิ่งของที่นิ่งๆ แต่ใช้เสียงเป็นตัวดำเนินเรื่อง ให้เราลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อได้บ่อยมาก และดีมาก ถึงจะรู้แนวแต่ก็ยังอดลุ้นไปด้วยไม่ได้ ด้านนักแสดง (ส่วนตัวไม่รู้จักวง Keyakizaka46 ( けやき坂46)  มาก่อน) ทุกคนน่ารัก

หากทุกคนเคยฝันจะมี ชีวิตรักที่โรแมนติกราาวกับเจ้าหญิง ในหนังตระกูลดิสนีย์ คุณไม่ควรพลาดเรื่อง A Christmas Princess อย่างแน่นอน  ภาพยนตร์เรื่องใหม่ใน A Netflix original film  ที่จะทำให้คุณล่องลอยไปกับความเพ้อฝันราวกับเป็นตัวเอกของการ์ตูนรักหวานโรแมนติก   A CHRISTMAS PRINCE  | A NETFLIX ORIGINAL FILM   Title: A Christmas Prince Length: 1h 32m Release: November 2017 Director: Alex Zamm หนังรักเบาสมอง พล็อตเรื่องที่สามารถเดาได้ และพลังมโนที่กล่อมให้คุณสามารถเต้นรำอยู่ในคฤหาสน์แสนมโหฬาร ทั้งหมดอยู่ในเรื่องนี้แล้ว  ภาพยนตร์เรื่องนี้มีพล็อตเรื่องที่เรียกว่า เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดีเลยทีเดียว  ชีวิตมีอุปสรรคนิดหน่อย แต่ทุกอย่างก็เพอร์เฟ็ค ลงตัวไปเสียทุกอย่าง  โดยทาง Netflix ได้ลงเรื่องนี้เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข หรือต้อนรับเทศกาล Christmas นั่นเอง ( สปอย ) เริ่มจากการที่นางเอกเป็นคนธรรมดา ที่อยู่ดีๆ ก็ได้แอบเข้าไปอยู่ในปราสาทเพื่อหวังสกูปเขียนข่าวของเจ้าชาย แล้วนางเอกกับเจ้าชายก็เกิดตกหลุมรักกันซะงั้น เรื่องก็เหมือนจะดีตามใจนึกไปเสียทุกอย่าง แต่ชีวิตก็ต้องมีขึ้นมีลง มีสุข

พี่เลี้ยงเด็กในความคิดของทุกคนเป็นอย่างไร?  พวกเขาจะรักเด็กคนนั้นและเลี้ยงให้เหมือนลูกของตัวเองเลยไหม? หรือจะดูแลแบบส่งๆ ให้เหมือนเป็นอาชีพหนึ่งเฉยๆ? จะแต่งตัวเรียบร้อยเอาใจผู้ปกครองของเด็กคนนั้นไหม? หรือจะแต่งตามใจตัวเองเลย? ไม่ว่าในความคิดของทุกคนจะเป็นอย่างไร เชื่อเลยว่า "พี่เลี้ยงเด็ก" ในเรื่อง The Babysitter จะตรงกันข้ามกับที่ทุกคนคิดแน่นอน !   THE BABYSITTER | A NETFLIX ORIGINAL FILM    ภาพยนตร์เรื่องใหม่จาก A Netflix original film ที่เหล่าสาวก Netflix เห็นตัวอย่างหนังแล้วถึงกับต้องนับรอวันให้เข้ามาในระบบ รวมถึงภาพโปรโมทหนังที่สะดุดตา และตัวเราก็เช่นกัน! หลังจากที่ทาง Fanpage ของ NetflixTH โพสต์ตัวอย่างหนังปุ๊บ เราก็นับวันรอและดูตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายเลยทีเดียว! เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กผู้ชายชื่อ โคล ที่เหมือนจะเป็น loser ที่โรงเรียนแต่มีพี่เลี้ยงที่สุดแสนจะสวยและเซ็กซี่จนใครๆ ก็อิจฉาชื่อ บี หนังเดินเรื่องมาให้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เรียกได้ว่าซี้กันแน่นปึ้ก นิสัยเข้ากันได้ดี ไม่ว่าจะแนวฟังเพลง ดูหนัง บลาๆ  แต่แล้ววันหนึ่งโคลเกิดเริ่มสงสัยขึ้นมาว่า ห

กลับมาอีกครั้งกับหนังเรื่องใหม่ที่เข้า Netflix ไม่นานมากนี้ ด้วยเรื่อง Gerald's Game ที่มีความยาว 1 ชั่วโมง 43 นาที และเต็มเป็นด้วยการลุ้นระทึก !  เรื่องนี้เราได้ข่าวมาจากทาง Facebook ของ NetflixTH เอาตัวอย่างหนังมาโพสลงหน้าแฟนเพจ  ซึ่งถือว่าทำตัวอย่างหนังออกมาได้น่าติดตามมาก และเราก็ไม่รอช้า กดแอพ Netflix ค้นหาเรื่องนี้ดูทันทีเลย . GERALD'S  GAME | A NETFLIX ORIGINAL FILM  .   ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนโดย Stephen King อีกแล้ว  และได้สร้างความอึดอัด ลุ้นไปกับตัวละครในเรื่องมากๆ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับสามี ภรรยาคู่หนึ่งที่แต่งงานแล้วชีวิตรักจืดชืดลง เลยพากันมาที่บ้านพักตากอากาศห่างไกลผู้คนเพื่อเล่นเซ็กส์เกมกัน !  ประเด็นอยู่ตรงที่สามีชอบการตื่นเต้น จึงเอากุญแจมือมาล็อกมือภรรยาไว้กับเสาของเตียง แล้วเกิดอาการหัวใจวาย ตายไปก่อนซะงั้น  ภาพยนตร์ทั้งเรื่องจึงเป็นการเล่าถึงการเอาตัวรอดของภรรยาคนนี้ในขณะที่ถูกจองจำมัดมือติดเตียงไว้แบบนี้ การเล่าเรื่องในภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าดี ถึงแม้มันจะดูโต้งๆ เลยก็เถอะ แต่ทำให้คนเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่ายขึ้น เช่นการลำดับเรื

ว่ากันว่า Netflix กำลังสร้าง NETFLIX ORIGINAL SERIES ขึ้นมาเยอะมาก และแต่ละเรื่องโอยรวมก็โอเคเลย น่าติดตาม ทำให้เราหลงอยู่ใน Netflix’s time หลายต่อหลายครั้ง ... ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อไม่กี่วันก่อนเราก็เลื่อนหาเรื่องใหม่ดู และก็เห็นซีรีส์เรื่อง The Mist ซึ่งใครๆ ก็คงเคยดูแบบภาพยนตร์ที่เข้าโรงไปเมื่อปี 2007 แต่นี่ปี 2017 ผ่านไปตั้ง 10 ปี! Netflix ก็ได้นำมาปรับปรุงใหม่ เคาะฝุ่น สร้างใหม่มาในรูปแบบซีรีส์ เลยตัดสินใจเลือกดูเรื่องนี้ ! รูปเปรียบเทียบปี 2007 กับ 2017 จุดน่าสนใจอยู่ที่ ภาพยนตร์เรื่อง "The mist (2007)" หรือ "มฤตยูหมอกกินมนุษย์" เนี้ย ทำออกมาได้ดีมาก ทั้งเรื่องเนื้อหา การลำดับเรื่อง นักแสดง แสง สี ตอนนั้นที่ดูคืออึดอัดมาก แต่มีจุดหนึ่งที่ไม่ค่อยโอเคคือตอนจบ เข้าใจแหละว่ามันอึดอัดมากจนต้องให้จบแบบนั้น แต่ดูๆ ไปแล้วเหมือนหนังฉายมานานแล้วตัดจบดีกว่า มากกว่า คือจบกันดื้อๆ เฉลยกันง่ายๆ แบบหักมุมไปอย่างรวบรัด เพราะฉะนั้น เราถึงอยากจะดูภาคซีรีส์ของเรื่องนี้ "The mist (2017)" ว่าจะทำเรื่องออกมาให้ทางไหน และตอนจบเป็นอย่างไร !?